โฮโมซาเปียน (Homo Sapien)
โฮโม ซาเปียนหรือมนุษย์ฉลาดวิวัฒนาการมาจากโฮโฮ อีเลคตัส ดังนั้นมนุษย์จึงเริ่มเกิดมาไม่นาน เมื่อเทียบกับโฮมินิดพันธึ์อื่นๆ ที่เกิดมาบนโลกนี้ก่อนโฮโมอีเลคตัส ซื่งเกิดก่อนมนุษย์แบบปัจจุบันและมีชีวิตอยูบนโลกนี้นานถึง 800,000 ปี ในขณะที่มนุษย์แบบปัจจุบันซึ่งเป็นโฮโม ซาเปียนเพิ่งเกิดมาเพียงประมาณ 50,000 ปี เท่านั้น
มนุษย์นีนเดอร์ธัล - โฮโม ซาเปียนยุคเก่า 250,000 - 50,000 ปีก่อน ค.ศ.
มนุษย์นีนเดอร์ธัลคือโฮโม ซาเปียนยุคเก่า หรือมนุษย์รุ่นแรกๆ ที่วิวัฒนาการมาจากโฮโม อีเลคตัส ปัจจุบันนักวิทยาศาสต์ได้หลักฐานว่าการสิ้นสุดลงของโฮมินิดพันธุ์หนึ่ง กับการเริ่มต้นของโฮมินิดพันธุ์ใหม่มีช่วงเวลาคาบเกี่ยวทับซ้อนกันเป็นเวลาหลายพันปีและเป็นไปไม่ได้ที่โฮมินิดพันธุ์หนึ่งสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว จึงจะมีโฮมินิดพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาแทน ดังนั้นจึงมีโฮมินิดหลายพันธุ์อาศัยอยู่กันบนโลกนี้ด้วยกันก่อนมราโฮมินิดพันธุ์หนึ่งจะสูญพันธุ์ไปจนหมด จนมีโฮมินิดพันธุ์ใหม่ทั้งสิ้นเข้ามาแทนที่ จากเหตุผลข้อนี้จึงไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนว่าเวลาใดคือช่วงสุดท้ายของโฮมินิดพันธุ์โฮโมอีเลคตัสและเวลาใดคือการเริ่มต้นของโฮมินิดพันธุ์โฮโมซาเปียน นอกจากจะกล่าวว่าโฮโมซาเปียนเริ่มเกิดขึ้นระหว่าง 250,000 ปี- 50,000 ปีก่อน ค.ศ. และตัวเลขตัวหลังคือโฮโมซาเปียนยุคใหม่โฮโมซาเปียนยุคใหม่ - มนุษย์แบบปัจจุบัน
เรื่องราวของมนุษย์นีนเดอร์ธัล เริ่มต้นจากการค้นพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ดึกดำบรรพ์ 2 ศีรษะด้วยกัน มีอายุประมาณ 250,000 ปี มาแล้ว ที่นีนเดอร์ธัลใกล้ๆ กับเมืองดุสเซลดอร์ฟ (Dusseldorf) ประเทศเยอรมัน ทั้ง 2 กะโหลกศีรษะที่พบมีลักษณะแตกต่างไปจากกะโหลกศีรษะของโฮโมอีเลคตัส เพราะมีขนาดสมองโตกว่าแต่ก็ยังไม่เท่าสมองของมนุษย์แบบปจจุบันจากหลักฐานนั้นแสดงว่ามีโฮมินิดก้าวหน้ากว่าโฮโม อีเลคตัสอยู่บนโลกนี้ก่อนมีมนุษย์แบบปัจจุบันเกิดขึ้นมา
เมื่อเกิดยุคน้ำแข็งสมัย"รีสส์"(Riss Glacial) เมื่อประมาณ 200,000 ปีก่อน ค.ศ. ในช่วงนี้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกศีรษะอย่างที่พบในบริเวณนีนเดอร์ธัลไม่มากนัก จนกระทั่งเมื่อยุคน้ำแข็งรีสส์ ผ่านพ้นไปแล้ว คือเมื่อ 150,000 ปีก่อน ค.ศ. ซากโครงกระดูกมนุษย์พวกนี้จึงปรากฎให้เห็นมากขึ้น
"มนุษย์นีนเดอร์ธัล" ซึ่งตั้งชื่อตามสถานที่ค้นพบครั้งแรกในเยอรมันมีหน้าตาแตกต่างไปจากมนุษย์แบบปัจจุบันครั้งแรกที่ค้นพบทำให้นักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นฉงงนสนเท่ห์มาก และมีความเห็นว่าเป็นกะโหลกของมนุษย์สมัยใหม่ที่โง่เง่าที่สุด เพราะมีสมองขนาดเล็กและหน้าตาแปลกไปกว่ามนุษย์แบบปัจจุบัน มนุษย์บางกลุ่มที่เรามองเห็นว่ามีหน้าตาแปลกประหลาดและโง่เขลามากนั้น บางทีอาจมีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์นีนเดอร์ธัล ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างมนุษย์สมัยใหม่กับมนุษย์นีนเดอร์ธัล
เนื่องจากเหตุผลที่มนุษย์นีนเดอร์ธัลม่มีความเกี่ยวข้องกับโฮมินิด ในยุคก่อนๆ เช่นโฮโม อีเลคตัส ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์ในขณะที่ค้นพบมนุษย์นีนเดอร์ธัลไม่มากนักจึงมีความเห็นว่า ยุคน้ำแข็งรีสส์ เป็นสาเหตุสำคัญของการตัดขาดมนุษย์นีนเดอร์ธัลจากโฮมินิดพันธุ์ก่อนหน้านั้น แต่ภายหลังที่มีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์นีนเดอร์ธัลมากขึ้นในบริเวณต่างๆของโลกจึงทราบว่าความจริงมนุษย์นีนเดอร์ธัลแพร่หลายอยู่ทั่วบริเวณ โลกเก่า (คือไม่รวมทวีปออสเตรเลียและอเมริกา) เช่น พบว่ามนุษย์พวกนี้เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ในยุโรปตะวันตกในแฟริกา เช่นที่มอรอคโค ในประเทศจีนรวมทั้งในบริเวณตะวันออกกลาง เช่นในอิรัค มนุษย์นีนเดอร์ธัลรุ่นแรกๆที่อยู่ในประเทศจีนมีอายุประมาณ 200,000 ปีก่อน ค.ศ. - ประมาณ 80,00 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นยุคน้ำแข็งอีกยุคหนึ่ง (เรียกว่ายุคน้ำแข็ง Wurm) ในช่วงนี้ปรากฎว่ามีมนุษย์นีนเดอร์ธัลอยู่ทั้วไปทั้งในยุโรปและเอเซีย
ในสายตาของมนุษย์สมัยใหม่เช่นมนุษย์แบบปัจจุบัน อาจของเห็นว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลมีรูปร่างหน้าตาโบราณมาก แต่ถ้ามองดูความสามารถทางสติปัญญาแล้ว จะพบว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีโฮมินิดก้าวหน้ากว่ายุคสมัยที่ผ่านมารวมทั้งโฮโม อีเลคตัส
สิ่งแรกที่พิสูจน์ให้เห็ฯขีดความสามารถทางปัญญาของมนุษย์นีนเดอร์ธัลก็คือประมาณ 80,000 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นีนเดอร์ธัลแพร่อยู่ทั่วโลกเก่า ช่วงนนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของยุคน้ำแข็ง ปกคลุมโลกอีกครั้งหนึ่ง ยุคน้ำแข็งนี้เรียกว่า ยุคน้ำแข็งเวอร์ม (Wurm Glacial) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 80,000 - 10,000 ปีก่อน ค.ศ. ช่วงนี้อากาศมีความหนาวรุนแรง แผ่นน้ำแข็งคลุมในแดนส่วนใหญ่ตอนเหนือของยุโรป แต่มนุษย์นีนเดอร์ธัลมิได้ถอยหนีน้ำแข็งลงมาทางใต้ มนุษย์นีนเดอร์ธัลที่อยู่ในบริเวณทางเหนืองของยุโรปคงอยู่ต่อสู้กับความหนาวและพื้นดินซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็งโดยอพยพเข้าไปอาศัยอยู่ภายในถ้ำป้องกันความหนาวด้วยการจุดไฟไว้กลางถ้ำ การอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นเวลายาวนานตลอดยุคน้ำแข็งของมนุษย์นีนเดอร์ธัล (ซึ่งสูญพันธุ์ไปประมาณ ปี 50,000 ก่อน ค.ศ.) เช่นนั้นเป็นชีวิตที่ไม่สะดวกสบายนักเพราะต้องเผชิญกับควันไฟอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่แสดงให้เห็นความฉลาดของมนุษย์นีนเดอร์ธัลอีกประการหนึ่งก็คือถ้ำที่พวกตนเลือกเข้าไปอาศัยในยุคน้ำแข็งต้องมีแสงแดดเข้าไปตลอดทั่วถ้ำมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
มนุษย์นีนเดอร์ธัลรู้จักสวมเสื้อผ้าทำเครื่องมือด้วยหินซึ่งมีความประณีตยิ่งกว่าโฮมินิดทุกพันธุ์ก่อนหน้านั้นรวมทั้งเครื่องมือทำด้วยหินของโฮโม อีเลคตัส ความก้าวหน้าเช่นนี้แสดงให้เห็นว่ารู้จักใช้คำพูดแสดงความหมายถึงสิ่งต้่งๆ แต่เรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์บางท่านโต้แย้งว่า ส่วนของสมองของมนุษย์นีนเดอร์ธัลที่เกี่ยวข้องกับกสนใช้คำพูดยังไม่เดิบโตดีเท่าส่วนอื่นๆของสมอง อย่างไรก็ดีคำพูดคงก้าวหน้ากว่าโฮโม อีเลคตัส ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลมีแนวคิดทางด้านนามธรรมเกี่ยวกับปัญหาของชีวิตได้ลึกล้ำกว่ายุคใดของโฮมินิดที่ผ่านมา กล่าวคือเป็นครั้งแรกที่โฮมินิดฝังศพผู้ตาย นักวิทยาศาสตร์ขุดข้นพบว่าบริเวณใกล้ๆ ซามาร์แคนด์ (Samarkand) ในสหภาพโซเวียตศพของเด็กนีนเดอร์ธัลถูกฝังอยู่ในเขาสัตว์ หลุงฝังศพอีกแห่งหนึ่งในอิรัคเป็นของผู้ชายนีนเดอร์ธัลคนหนึ่ง มีดอกไม้ป่าและหญ้า วางไว้รอบๆศพผู้ตาย สิ่งที่ค้นพบดังกล่าวมีความสำคัญมากเพราะแสดงให้เห็นแนวคิดและความเชื่อเกี่ยวกับปัญหาของโลกและชีวิตในความนึกคิดของมนุษย์นีนเดอร์ธัล เหตุใดมนุษย์นีนเดอร์ธัลจึงฝังศพผู้ตาย? เหตุใดจึงวางดอกไม้ป่าและหญ้าไว้ในหลุมฝังศพ ? เราอาจไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลบางกลุ่มเริ่มต้นมีความเชื่อทางศาศนา เริ่มต้นว่าเชื่อว่ามีชีวิตภายหลังความตายเหมือนอย่างความเชื่อของมนุษย์สมัยใหม่ในยุคแรกๆ นับว่าเป็นการเริ่มต้นของการใช้ความคิดที่กว้างไกลยิ่งครั้งใดของโฮมินิดที่ผ่านมาจากพฤติกรรมทั้งหมดของมนุษย์นีนเดอร์ธัลแสดงว่าเกิดจากสมองของมนุษย์นีนเดอร์ธัลมีขนาดใหญ่กว่าโฮมินิดทุกพันธุ์ของโลกที่ผ่านมา ทั้งของโฮโม อีเลคตัส และเป็นครั้งแรกที่แสดงว่า มนุษย์นีนเดอร์ธัลคือ โฮโมซาเปียนรุ่นเก่า ก่อนมีโฮโมซาเปียนรุ่นใหม่คือมนุษย์แบบปัจจุบันเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ แม้มนุษย์นีนเดอร์ธัลจะเกอดขึ้นมาและสูญพันธุ์ไป (เริ่มต้นปรัมาณ 250,000 - 50,000 ปีก่อน ค.ศ.) แต่ก็แสดงว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลประสบความสำเร็จดีกว่า โฮโม อัเลคตัส มนุษย์นีนเดอร์ธัลอาจมีชีวิตอยู่ร่วมสมัยเดียวกับเผ่าพันธุ์โฮมินิดอื่นๆ ซึ่งบางครั้งอาจสมสู่กัน และบางครั้งอาจขัดแย้งกันเป็นเวลานานในที่สุดก็สูญพันธุ์ไป
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือประวัติศาสตร์โลก
"มนุษย์นีนเดอร์ธัล" ซึ่งตั้งชื่อตามสถานที่ค้นพบครั้งแรกในเยอรมันมีหน้าตาแตกต่างไปจากมนุษย์แบบปัจจุบันครั้งแรกที่ค้นพบทำให้นักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นฉงงนสนเท่ห์มาก และมีความเห็นว่าเป็นกะโหลกของมนุษย์สมัยใหม่ที่โง่เง่าที่สุด เพราะมีสมองขนาดเล็กและหน้าตาแปลกไปกว่ามนุษย์แบบปัจจุบัน มนุษย์บางกลุ่มที่เรามองเห็นว่ามีหน้าตาแปลกประหลาดและโง่เขลามากนั้น บางทีอาจมีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์นีนเดอร์ธัล ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างมนุษย์สมัยใหม่กับมนุษย์นีนเดอร์ธัล
เนื่องจากเหตุผลที่มนุษย์นีนเดอร์ธัลม่มีความเกี่ยวข้องกับโฮมินิด ในยุคก่อนๆ เช่นโฮโม อีเลคตัส ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์ในขณะที่ค้นพบมนุษย์นีนเดอร์ธัลไม่มากนักจึงมีความเห็นว่า ยุคน้ำแข็งรีสส์ เป็นสาเหตุสำคัญของการตัดขาดมนุษย์นีนเดอร์ธัลจากโฮมินิดพันธุ์ก่อนหน้านั้น แต่ภายหลังที่มีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์นีนเดอร์ธัลมากขึ้นในบริเวณต่างๆของโลกจึงทราบว่าความจริงมนุษย์นีนเดอร์ธัลแพร่หลายอยู่ทั่วบริเวณ โลกเก่า (คือไม่รวมทวีปออสเตรเลียและอเมริกา) เช่น พบว่ามนุษย์พวกนี้เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ในยุโรปตะวันตกในแฟริกา เช่นที่มอรอคโค ในประเทศจีนรวมทั้งในบริเวณตะวันออกกลาง เช่นในอิรัค มนุษย์นีนเดอร์ธัลรุ่นแรกๆที่อยู่ในประเทศจีนมีอายุประมาณ 200,000 ปีก่อน ค.ศ. - ประมาณ 80,00 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นยุคน้ำแข็งอีกยุคหนึ่ง (เรียกว่ายุคน้ำแข็ง Wurm) ในช่วงนี้ปรากฎว่ามีมนุษย์นีนเดอร์ธัลอยู่ทั้วไปทั้งในยุโรปและเอเซีย
ในสายตาของมนุษย์สมัยใหม่เช่นมนุษย์แบบปัจจุบัน อาจของเห็นว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลมีรูปร่างหน้าตาโบราณมาก แต่ถ้ามองดูความสามารถทางสติปัญญาแล้ว จะพบว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีโฮมินิดก้าวหน้ากว่ายุคสมัยที่ผ่านมารวมทั้งโฮโม อีเลคตัส
สิ่งแรกที่พิสูจน์ให้เห็ฯขีดความสามารถทางปัญญาของมนุษย์นีนเดอร์ธัลก็คือประมาณ 80,000 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นีนเดอร์ธัลแพร่อยู่ทั่วโลกเก่า ช่วงนนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของยุคน้ำแข็ง ปกคลุมโลกอีกครั้งหนึ่ง ยุคน้ำแข็งนี้เรียกว่า ยุคน้ำแข็งเวอร์ม (Wurm Glacial) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 80,000 - 10,000 ปีก่อน ค.ศ. ช่วงนี้อากาศมีความหนาวรุนแรง แผ่นน้ำแข็งคลุมในแดนส่วนใหญ่ตอนเหนือของยุโรป แต่มนุษย์นีนเดอร์ธัลมิได้ถอยหนีน้ำแข็งลงมาทางใต้ มนุษย์นีนเดอร์ธัลที่อยู่ในบริเวณทางเหนืองของยุโรปคงอยู่ต่อสู้กับความหนาวและพื้นดินซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็งโดยอพยพเข้าไปอาศัยอยู่ภายในถ้ำป้องกันความหนาวด้วยการจุดไฟไว้กลางถ้ำ การอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นเวลายาวนานตลอดยุคน้ำแข็งของมนุษย์นีนเดอร์ธัล (ซึ่งสูญพันธุ์ไปประมาณ ปี 50,000 ก่อน ค.ศ.) เช่นนั้นเป็นชีวิตที่ไม่สะดวกสบายนักเพราะต้องเผชิญกับควันไฟอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่แสดงให้เห็นความฉลาดของมนุษย์นีนเดอร์ธัลอีกประการหนึ่งก็คือถ้ำที่พวกตนเลือกเข้าไปอาศัยในยุคน้ำแข็งต้องมีแสงแดดเข้าไปตลอดทั่วถ้ำมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
มนุษย์นีนเดอร์ธัลรู้จักสวมเสื้อผ้าทำเครื่องมือด้วยหินซึ่งมีความประณีตยิ่งกว่าโฮมินิดทุกพันธุ์ก่อนหน้านั้นรวมทั้งเครื่องมือทำด้วยหินของโฮโม อีเลคตัส ความก้าวหน้าเช่นนี้แสดงให้เห็นว่ารู้จักใช้คำพูดแสดงความหมายถึงสิ่งต้่งๆ แต่เรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์บางท่านโต้แย้งว่า ส่วนของสมองของมนุษย์นีนเดอร์ธัลที่เกี่ยวข้องกับกสนใช้คำพูดยังไม่เดิบโตดีเท่าส่วนอื่นๆของสมอง อย่างไรก็ดีคำพูดคงก้าวหน้ากว่าโฮโม อีเลคตัส ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลมีแนวคิดทางด้านนามธรรมเกี่ยวกับปัญหาของชีวิตได้ลึกล้ำกว่ายุคใดของโฮมินิดที่ผ่านมา กล่าวคือเป็นครั้งแรกที่โฮมินิดฝังศพผู้ตาย นักวิทยาศาสตร์ขุดข้นพบว่าบริเวณใกล้ๆ ซามาร์แคนด์ (Samarkand) ในสหภาพโซเวียตศพของเด็กนีนเดอร์ธัลถูกฝังอยู่ในเขาสัตว์ หลุงฝังศพอีกแห่งหนึ่งในอิรัคเป็นของผู้ชายนีนเดอร์ธัลคนหนึ่ง มีดอกไม้ป่าและหญ้า วางไว้รอบๆศพผู้ตาย สิ่งที่ค้นพบดังกล่าวมีความสำคัญมากเพราะแสดงให้เห็นแนวคิดและความเชื่อเกี่ยวกับปัญหาของโลกและชีวิตในความนึกคิดของมนุษย์นีนเดอร์ธัล เหตุใดมนุษย์นีนเดอร์ธัลจึงฝังศพผู้ตาย? เหตุใดจึงวางดอกไม้ป่าและหญ้าไว้ในหลุมฝังศพ ? เราอาจไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลบางกลุ่มเริ่มต้นมีความเชื่อทางศาศนา เริ่มต้นว่าเชื่อว่ามีชีวิตภายหลังความตายเหมือนอย่างความเชื่อของมนุษย์สมัยใหม่ในยุคแรกๆ นับว่าเป็นการเริ่มต้นของการใช้ความคิดที่กว้างไกลยิ่งครั้งใดของโฮมินิดที่ผ่านมาจากพฤติกรรมทั้งหมดของมนุษย์นีนเดอร์ธัลแสดงว่าเกิดจากสมองของมนุษย์นีนเดอร์ธัลมีขนาดใหญ่กว่าโฮมินิดทุกพันธุ์ของโลกที่ผ่านมา ทั้งของโฮโม อีเลคตัส และเป็นครั้งแรกที่แสดงว่า มนุษย์นีนเดอร์ธัลคือ โฮโมซาเปียนรุ่นเก่า ก่อนมีโฮโมซาเปียนรุ่นใหม่คือมนุษย์แบบปัจจุบันเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ แม้มนุษย์นีนเดอร์ธัลจะเกอดขึ้นมาและสูญพันธุ์ไป (เริ่มต้นปรัมาณ 250,000 - 50,000 ปีก่อน ค.ศ.) แต่ก็แสดงว่ามนุษย์นีนเดอร์ธัลประสบความสำเร็จดีกว่า โฮโม อัเลคตัส มนุษย์นีนเดอร์ธัลอาจมีชีวิตอยู่ร่วมสมัยเดียวกับเผ่าพันธุ์โฮมินิดอื่นๆ ซึ่งบางครั้งอาจสมสู่กัน และบางครั้งอาจขัดแย้งกันเป็นเวลานานในที่สุดก็สูญพันธุ์ไป
ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือประวัติศาสตร์โลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น