ประวัติความเป็นมาของมนุษย์
ออสตราโลพิธีคัส (Australopithecus)
ร่องรอยแรกที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบได้มาจาก แอฟริกาใต้ และ แอฟริกาตะวันออก บริเวณโอลดูไว ยอร์ช ซึ่งตั้งอยู่ในแทนซาเนียในแอฟริกาปัจจุบันเป็นที่ค้นพบกระดูกสัตว์คล้ายมนุษย์ในบริเวณโอดดูไว ยอร์ช คือจุดเริ่มต้นของการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมนุษย์การค้นพบในตอนแรกๆดูเหมือนว่าไม่ใช้สิ่งที่น่าสนใจนักเพราะเป็นการค้นพบกองกระดูกกลายเป็นหินจำนวนไม่มาก แต่เมื่อเอามาศึกษาอย่างละเอียดนักวิทยาศาสตร์จึงพบว่ากองกระดูกกลายเป็นหินเหล่านี้คือสัตว์ประหลาดประมาณ 20 ร่างซึ่งไม่เคยมีใครพบมาก่อนเลยตั้งชื่อว่าลิงแหล่งแอฟริกาใต้-ออสตราโลพิธีคัสและเมื่อนำมาคำนวนอายุก็พบว่ามีอายุอยู่บนโลกนี้ประมาณ 1.2 ล้านปีมาแล้ว
จากกองกระดูกที่กลายเป็นหินทำให้นักวิทยาศาสตร์พบว่าออสตราโลพิธีคัสมีส่วนสูงเกินกว่าหนึ่งเมตร มีตะโพก ขา และเท้า ที่คล้ายมนุษย์มากกว่าของลิง แต่กะโหลกศีรษะเหมือนลิง มีขนาดสมองโตเท่ากับขนาดของลิงกอริลา เดินตัวตรงและวิ่งได้ตามพื้นดินอย่างที่ลิงไม่สามารถกระทำได้ มือมีนิ้วเช่นเดียวกับมนุษย์ สิ่งที่สำคัญยิ่งจากการค้นพบนี้ก็คือนักวิทยาศาสตร์สามารถรู้ถึงพฤติกรรมของมนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัส คือรู้ว่ามนุษย์วานรพวกนี้อยู่เป็นกลุ่ม อาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกันเป็นเวลานาน และกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร และเนื่องจากไม่พบหลักฐานการใช้ไฟในบริเวณที่มนุษย์วานรพวกนี้ตั้งถิ่นฐานอยู่ จึงสันนิษฐานว่าออสตราโลพิธีคัสกินเนื้อดิบๆเป็นอาหาร นอกจากนั้นยังพบว่าออสตราโลพิธีคัสรู้จักสร้างเครื่องมือ ทั้งนี้ก็เพราะว่าจากการขุดค้นในบริเวณ โอลดูไว ยอร์ช ค้นพบหินต่างๆ ที่มนุษย์วานรพวกนี้นำมาจากบริเวณส่วนอื่นๆ ซึ่งเมื่อเอาหินเหล่านี้มากระเทาะก็จะได้เครื่องมือตัดอย่างหยาบๆใช้มือจับตัดสิ่งของนับว่าเป็นเครื่องมือชิ้นแรกของโลกเกิดขึ้นในบริเวณโอลดู ไว ยอร์ช จากการประดิษฐ์ของมนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัสเป็นการเริ่มต้นเทคโนโลยีสร้างเครื่องมือด้วยหิน ยุคหินแรกสุด เกิดขึ้นมาในช่วงนี้ต่อมาเครื่องมือทำด้วยหินจึงได้รับการพัฒนาให้ก้สวหน้ายิ่งขึ้นไปเรื่อยๆจากมนุษย์วานรยุคต่ามา
การค้นพบที่ โอลดูไว ยอร์ช ยังมีปัญหาบางอย่างที่ยังไม่มีข้อยุติ ปัญกาแรกก็คือว่ามนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัสคือบรรพบุรุษสายตรงของมนุษย์หรือไม่ ที่แน่นอนก็คือออสตราโลพิธีคัสคือ โฮมินิด(Hominid สาขาคล้ายมนุษย์ ส่วนโอมินอยด์สาขาคล้ายลิงเรียกว่าพอนกิน Pongid)
แต่ก็อาจเป็นคนละพันธุ์ของต้นตระกูลมนุษย์ก็เป็นได้คือพันธุ์ใกล้เคลียงกับบรรพบุรุษโดยตรงของมนุษย์เท่านั้นเพราะถึงแม้จะมีลักษณะบางประการเหมือนอย่างของมนุษย์ในยุคถัดมากมัน แต่ก็มีรูปร่างบางอย่างแตกต่างไปจากมนุษย์มาก โดยเฉพาะกะโหลกศรัษะ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์บางท่านจึง สันนิษฐานว่าออสตราโลพิธีคัสอาจมีบรรพบุรุษร่วมกันในอดีตของมันกับมนุษย์ กล่าวคือทาง ออสตราโลพิธีคัสกับมนุษย์อาจวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นปัญหาซับซ้อนและยุ่งยาก เพราะการค้นพบในช่วงหลังๆ ของนักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดปัญหาสำคัญขึ้นมา 2 ประการด้วยกัน ปัญหาแรกผลมาจากการค้นพบใหม่ๆทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่าออสตราโลพิธีคัสอาจมีหลายพันธุ์ ปัญหาที่สองในบริเวณอื่นๆของแอฟริกาตะวันออก เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ได้หลักฐานว่าในช่วงเวลาเดียวกันมีทั้งออสตราโลพิธีคัสและมนุษย์วานรอื่นๆมีรูปร่างคล้ายมนุษย์มากกว่า อาศัยอยู่ในแอฟริกา จากการค้นพบเช่นนี้จึงสรุปว่าเมื่อ 2-3 ล้านปีมาแล้ว ไม่ใช้ว่ามีออสตราโลพิธีคัสเท่านั้น หากแต่ยังมีโฮมินิดพันธุ์อื่นๆด้วยและเนื่องจากว่ามนุษย์วานรเหล่านี้มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์จึงถูกจัดอยู่ในตระกูล"โฮโม"(ภาษาลาตินคือมนุษย์)
การค้นพบที่ โอลดูไว ยอร์ช ยังมีปัญหาบางอย่างที่ยังไม่มีข้อยุติ ปัญกาแรกก็คือว่ามนุษย์วานรออสตราโลพิธีคัสคือบรรพบุรุษสายตรงของมนุษย์หรือไม่ ที่แน่นอนก็คือออสตราโลพิธีคัสคือ โฮมินิด(Hominid สาขาคล้ายมนุษย์ ส่วนโอมินอยด์สาขาคล้ายลิงเรียกว่าพอนกิน Pongid)
แต่ก็อาจเป็นคนละพันธุ์ของต้นตระกูลมนุษย์ก็เป็นได้คือพันธุ์ใกล้เคลียงกับบรรพบุรุษโดยตรงของมนุษย์เท่านั้นเพราะถึงแม้จะมีลักษณะบางประการเหมือนอย่างของมนุษย์ในยุคถัดมากมัน แต่ก็มีรูปร่างบางอย่างแตกต่างไปจากมนุษย์มาก โดยเฉพาะกะโหลกศรัษะ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์บางท่านจึง สันนิษฐานว่าออสตราโลพิธีคัสอาจมีบรรพบุรุษร่วมกันในอดีตของมันกับมนุษย์ กล่าวคือทาง ออสตราโลพิธีคัสกับมนุษย์อาจวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นปัญหาซับซ้อนและยุ่งยาก เพราะการค้นพบในช่วงหลังๆ ของนักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดปัญหาสำคัญขึ้นมา 2 ประการด้วยกัน ปัญหาแรกผลมาจากการค้นพบใหม่ๆทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่าออสตราโลพิธีคัสอาจมีหลายพันธุ์ ปัญหาที่สองในบริเวณอื่นๆของแอฟริกาตะวันออก เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ได้หลักฐานว่าในช่วงเวลาเดียวกันมีทั้งออสตราโลพิธีคัสและมนุษย์วานรอื่นๆมีรูปร่างคล้ายมนุษย์มากกว่า อาศัยอยู่ในแอฟริกา จากการค้นพบเช่นนี้จึงสรุปว่าเมื่อ 2-3 ล้านปีมาแล้ว ไม่ใช้ว่ามีออสตราโลพิธีคัสเท่านั้น หากแต่ยังมีโฮมินิดพันธุ์อื่นๆด้วยและเนื่องจากว่ามนุษย์วานรเหล่านี้มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์จึงถูกจัดอยู่ในตระกูล"โฮโม"(ภาษาลาตินคือมนุษย์)
ข้อมูลจาก หนังสือประวัติศาสตร์โลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น